ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นทั้ง Inputs และ Outputs กล่าวคือ ที่ดินเปน็ ปัจจัยการผลิต Inputs ที่มีความสำาคัญต่อ การผลิตสินคาา ที่ก่อให้เกิด Outputs ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ของใช้ และอาหาร ในปัจจุบันมนุษย์มีความต้องการด้าน อสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ส่งผลใหาราคาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มีแนวโนามเพิ่มขึ้นด้วยสำาหรับปัจจัยด้า นมูลค่าซื้อขายอสังหาฯ ขึ้นอยู่กับ ความเจริญ และ ความต้องการ เป็น หลัก ต้องเลือกพื้นที่ที่มี อัตราการเพิ่มของประชากรและทุกๆครั้งที่เกิดเงินเฟ้อ ราคาของอสังหาฯ ก็แปรผันตรงกับเงินเฟ้า การปรับ ราคาก็เพิ่มขึ้นเสมอ
หากมีการเปรียบเทียบด้านการลงทุนระหว่าง “อสังหาฯ” และ “หุ้น” สามารถตอบได้เลยว่า หุ้นให้ผล
ตอบแทนที่ดีกว่าในระยะสั้น แต่หากเป็นระยะยาวแล้ว การลงทุนดาานอสังหาฯ จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
จากรูป แสดงการเปรียบเทียบการลงทุนในสินทรัพย์วงเงิน 2 ล้านบาทเท่ากัน
คนที่หาผลประโยชน์จาก ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
สมมติ : ที่ดินแปลงหนึ่งราคาเพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท
• นักลงทุน (Investor) ในมุมมองของนักลงทุน เขาจะวิเคราะห์ว่า ที่ดินแปลงนี้มลค่าอยู่ลที่ 1 ล้านบาทเท่านั้น
แต่ก็ไม่น่าซื้อ ถึงแม้ราคาจะขึ้นก็ตาม
• นักเก็งกำาไร (Speculator) ในมุมมองของนักเก็งกำาไร เขามองว่าราคากำาลังเพิ่ม และกำลังซื้อยังมีต่อเนื่อง
เขาจึงซื้อที่ดิน 2 ล้านบาทอีก เพื่อขายต่อที่ 2.5 ล้านบาท
• นักพนัน (Gambler) ในมุมมองของนักพนัน ต้องการซื้อที่ดิน ณ เวลานั้น ถ้าคนยังแย่งกันซื้อ ยังไงราคา
ก็ขึ้นต้องอีก
ทางเลือกในการลงทุนทางอ้อมในอสังหาริมทรัพย์ มี 2 ทางเลือก คือ
• ลงทุนในกองทุนรวมอสังหาฯ
• ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ
อ้างอิง : http://www.checkraka.com